ภายใต้โครงการเต็มใจ
การประกวดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตโดยใช้คอนเทนต์และหนังสือเป็นตัวขับเคลื่อน
ลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญ คลิก https://docs.google.com/forms/d/1nCgwuDz_AcLLMmeD5-KxdOmQR19bsEl-6C6gdNuuAhk/edit

ภายใต้ โครงการเต็มใจ โดยความร่วมมือของ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย x มูลนิธิดั่งพ่อสอน x White Prestige
หน่วยงานที่รับผิดชอบ: นักธุรกิจจิตอาสา แบรนด์ White Prestige โดย บริษัท โกร อัพ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด
ผู้รับผิดชอบโครงการ: นางสาวสุภาพรรณ เยี่ยมชัยภูมิ นักธุรกิจจิตอาสาสาแบรนด์ White Prestige

หลักการและเหตุผล
โครงการเต็มใจ เป็นโครงการประกวดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่ม เยาวชนระดับอุดมศึกษา อายุ 18-25 ปี โดยความร่วมมือจาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และ มูลนิธิดั่งพ่อสอน หัวใจของโครงการคือการให้เยาวชนได้ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์ ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่โครงการบริจาคโลหิตให้เข้าถึงกลุ่มเยาวชนด้วยกันและประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในคลังของสภากาชาดไทยอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสาธารณะด้านการให้และการเสียสละ รวมถึงการยกย่องเยาวชนที่ทำความดีให้เป็นแบบอย่างในสังคม
โครงการเต็มใจยังได้รับการสนับสนุนจาก โครงการพัฒน์ (PLUS) ซึ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ โดยมี CEO จาก SMEs กว่า 30 แบรนด์ อาสาเข้ามาเป็นที่ปรึกษา (Mentor) ให้กับผู้เข้าประกวดอย่างใกล้ชิด ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้รับการอบรมด้านการตลาด การบริหารจัดการ และงานความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
White Prestige ภายใต้บริษัทโกร อัพ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งใน 30 แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการ เป็น ผู้ให้บริการแปลงความรู้ขององค์กรให้กลายเป็น “สินทรัพย์ที่สร้างรายได้” และ “ทุนแบรนด์ที่ยั่งยืน” ผ่านการออกแบบเนื้อหาดิจิทัลอย่างมีชั้นเชิง และการสร้างสรรค์หนังสือเล่มคุณภาพ ที่ทำหน้าที่มากกว่าเอกสาร — แต่เป็นเครื่องมือกลยุทธ์เพื่อสร้างความเชื่อถือและความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยความเชี่ยวชาญนี้ White Prestige มุ่งหวังที่จะ ถ่ายทอดองค์ความรู้และกระบวนการทำงานจริง ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์และหนังสือเชิงกลยุทธ์แก่นักศึกษาผู้เข้าประกวด เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจถึงคุณค่าของการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่เป็นการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืน
ในการประกวดครั้งนี้ White Prestige ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับทีมนักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม โดยเน้นการจัดกิจกรรมรณรงค์ผ่าน กิจกรรม “Knowledge Asset เปลี่ยนความรู้เป็นคอนเทนท์สินทรัพย์” สร้างสรรค์คอนเทนต์ สื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ และเผยแพร่องค์ความรู้เป็นอีบุ๊กและหนังสือเล่ม นักศึกษาจะได้พัฒนาทักษะด้านการสัมภาษณ์ การเรียบเรียง การจัดหน้า การทำภาพกราฟิก และการสื่อสารรูปแบบต่างๆ ผ่านการเรียนรู้และลงมือทำจริงตามมาตรฐานของ White Prestige เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้คนบริจาคโลหิต โครงการนี้จึงเป็นเสมือนโรงเรียนภาคปฏิบัติขนาดเล็ก ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากมืออาชีพ และหากมีแววโดดเด่น ก็อาจได้รับโอกาสในการร่วมงานกับ White Prestige ในอนาคต เพื่อต่อยอดสู่การเป็นผู้สร้าง “สินทรัพย์ทางความรู้” ที่แท้จริง ทั้งนี้เรามีแบรนด์ Official Partner ภายใต้บริษัทโกร อัพ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ที่ร่วมสนับสนุนดังนี้ #ร่ายมนตร์ นักสร้างสรรค์ Storytelling สำหรับ SME #GEMINAacademy สถาบันฝึกอบรม พัฒนาทักษะ และสร้างโอกาสเพิ่มรายได้อาชีพที่ 2 #LIBRA สถาบันจัดการประกวดและรับรองมาตรฐานการประกวดเพื่อสังคม #วาดสดเปลี่ยนคุณเป็นการ์ตูน ผู้ให้บริการงานศิลปะสำหรับอีเวนท์ และ #FINspace นักกระจายความสุขผ่านงานอีเวนท์และกิจกรรมสุดฟิน
ทีมนักศึกษา 1 ทีม จะได้สัมภาษณ์นักธุรกิจในองค์กรขนาดใหญ่ และ/หรือ ผู้มีชื่อเสียง เพื่อนำเรื่องราว ประสบการณ์ และแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์สังคม โดยเฉพาะเรื่องการบริจาคโลหิต มาเป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการมีปริมาณโลหิตในคลังที่สม่ำเสมอ
ผลงานการเล่าเรื่องของทีมผู้เข้าประกวดจะถูกนำไป สื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบ อีบุ๊กและหนังสือเล่ม และนำไปมอบให้กับห้องสมุดต่างๆ โดยในปี 2568 นี้ ทางแคมเปญได้เรื่องได้เลือดมีความประสงค์จะมอบให้กับ ห้องสมุดกรุงเทพมหานคร 36 แห่ง และ ห้องสมุดในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครอีก 437 แห่ง เพื่อเป็นชุดหนังสือเรียนรู้ภาคประสบการณ์สำหรับนักเรียนและนักอ่านทั่วไป
วัตถุประสงค์
- ถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะจริง: ให้นักศึกษาได้เรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์คอนเทนต์เชิงกลยุทธ์ และผลิตหนังสือที่สามารถแปลงเป็น “สินทรัพย์ที่สร้างรายได้” และ “ทุนแบรนด์ที่ยั่งยืน” รวมถึงการทำการตลาดและ CSR จากประสบการณ์จริงของ White Prestige
- ปลูกฝังจิตสาธารณะ โดยเฉพาะด้านการให้และการเสียสละ
- ส่งเสริมให้มีการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ด้วยการเป็นอาสาสมัครทำงานในโครงการเต็มใจ
- เสริมสร้างแนวคิดและทักษะการทำงานที่เป็นหลักการ ขั้นตอน และมีเหตุผล โดยผ่านกระบวนการคิดมากกว่าการสร้างความสำเร็จในทางลัด
- เสริมสร้างแนวคิดทางด้านการตลาด การคิดงานแบบสร้างสรรค์ ทฤษฎีการทำงานความรับผิดชอบต่อสังคม
- ส่งเสริมและยกย่องกลุ่มเยาวชนที่ทำดี ให้เป็นแบบอย่างในสังคม เพื่อเป็นต้นแบบในการปฏิบัติตนของเยาวชนอื่นๆ
- ส่งเสริมให้เยาวชนและคนทั่วไป ตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต และเห็นประโยชน์ของการมีคลังโลหิตที่เพียงพอต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วย
- เพิ่มปริมาณโลหิตในคลังของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อสำรองใช้ในเวลาฉุกเฉิน
- ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ เข้ามามีบทบาทในการรณรงค์ ด้วยการถ่ายทอดประสบการณ์และทำงานร่วมกับกลุ่มเยาวชน
- เสริมสร้างความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ให้มีการเชื่อมโยงและร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ มหาวิทยาลัย ภาคธุรกิจ สภากาชาดไทย โรงพยาบาล และมูลนิธิดั่งพ่อสอน

กลุ่มเป้าหมาย
นักศึกษาที่มีความรู้ความสามารถด้านการเขียน การสร้างสรรค์คอนเทนต์ และมีความสนใจในงานสื่อสาร อาทิ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ เป็นต้น

กิจกรรมของโครงการ
- จัดทีม 6 คนเข้าประกวด โดยแบ่งหน้าที่ต่างๆ อาทิ บรรณาธิการเล่ม นักเขียน นักวาด กราฟิกดีไซเนอร์ ผู้ประสานงานกอง เป็นต้น โดยมีทีมงาน White Prestige เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการสร้าง “Knowledge Asset” ที่มีคุณภาพ
- นักศึกษาเข้ารับการอบรมหลักสูตร “Wise Creator” (การสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อทำแคมเปญ) และหลักสูตรเต็มใจ (ความรู้ด้านการตลาด ความรู้เรื่องเลือดและการบริจาคโลหิต รวมถึงความรู้เฉพาะทางด้านการสัมภาษณ์ การเขียน และการผลิตหนังสือเล่มตามแนวทางของ White Prestige เพื่อสร้าง “สินทรัพย์ทางปัญญา” )
- สัมภาษณ์และเรียบเรียงข้อมูล โดยนำหลักการและเทคนิคการสัมภาษณ์จาก White Prestige มาปรับใช้ เพื่อดึงคุณค่าจากความรู้มาสร้างสรรค์คอนเทนต์
- ตรวจสอบคุณภาพงานเขียนจากองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญ อาทิ สมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมบรรณาธิการไทย และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย พร้อมรับ Feedback จากผู้เชี่ยวชาญของ White Prestige เพื่อพัฒนาผลงานให้เป็น “คอนเทนต์สินทรัพย์” ที่สมบูรณ์แบบ
- จัดรูปเล่ม จัดพิมพ์ เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเรียนรู้กระบวนการผลิตสื่อแบบมืออาชีพที่สามารถสร้าง “ทุนแบรนด์” และการเข้าถึงได้อย่างยั่งยืน
- รณรงค์ให้คนบริจาคโลหิต ด้วยการคอนเทนต์จากหนังสือและคอนเทนต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างการตระหนักรู้เรื่องการให้ การเสียสละ และการบริจาคโลหิต โดยเน้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามหลักการสื่อสารของ White Prestige เพื่อเพิ่ม “Engagement Asset”
- จัดกิจกรรมเปิดรับบริจาคโลหิตตามคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ตามหน่วยงาน และองค์กรต่างๆ รวมถึงศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์
- เปิดตัวหนังสือ มอบหนังสือให้ห้องสมุด และมอบรางวัลให้กับทีมผู้ชนะการประกวดแคมเปญได้เรื่องได้เลือด

กำหนดการจัดกิจกรรม
- เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568: รับสมัครทีมนักศึกษา และจัดการอบรมหลักสูตรเต็มใจ และหลักสูตร Wise Creator (การสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อทำแคมเปญ)
- เดือนกันยายน 2568: เผยแพร่คอนเทนต์ จัดกิจกรรมรณรงค์ รับบริจาคโลหิต
- เดือนตุลาคม 2568: คณะกรรมการพิจารณาและตัดสินบทความสัมภาษณ์
- เดือนพฤศจิกายน 2568: เผยแพร่อีบุ๊ก และจัดพิมพ์หนังสือเล่ม
- วันที่ 19 ธันวาคม 2568: มอบรางวัลผู้ชนะการประกวด และส่งมอบหนังสือให้หน่วยงาน ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- นักศึกษาได้รับประสบการณ์และองค์ความรู้จริง นักศึกษาเยาวชนมีความภาคภูมิใจ ได้รับการยอมรับจากสังคม ในการเสียสละช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมได้เรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์ “Knowledge Asset” และ “Brand Equity” ผ่านการทำงานด้านคอนเทนต์และหนังสือจากมืออาชีพ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการทำงานจริงได้
- มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมสนับสนุนให้นิสิตนักศึกษาทำกิจกรรมเพื่อสังคม และเพิ่มพูนทักษะวิชาชีพ
- ผู้บริหารที่ให้สัมภาษณ์ เป็นต้นแบบ ที่ส่งต่อประสบการณ์สร้างแรงบันดาลให้เยาวชนและคนในสังคม
- White Prestige ได้มีกิจกรรมร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม พร้อม ค้นหาและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เพื่อร่วมงานในอนาคตในการสร้าง “สินทรัพย์ทางความรู้” ให้กับองค์กรต่างๆ
- ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลต่างๆ ได้เลือด และได้เป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักการเสียสละทำเพื่อผู้อื่น

ลงทะเบียนเข้าร่วมแคมเปญ คลิก
https://docs.google.com/forms/d/1nCgwuDz_AcLLMmeD5-KxdOmQR19bsEl-6C6gdNuuAhk/edit
กติกาการประกวดและเกณฑ์การตัดสิน “White Prestige Writing Awards”
ประเภทงานเขียนบทสัมภาษณ์ ภายใต้แคมเปญ “ได้เรื่องได้เลือด”
คุณสมบัติผู้เข้าประกวด:
- กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา อายุระหว่าง 18-25 ปี
- เป็นผู้เข้าประกวดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตภายใต้โครงการเต็มใจ
- มีความรักและใฝ่รู้ในงานเขียน โดยเฉพาะบทสัมภาษณ์ และบทความต่างๆ และสนใจในการสร้างสรรค์คอนเทนต์หลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างมูลค่า
กติกาการประกวด:
- ผู้เข้าประกวดจะต้องสมัครเข้าร่วมแคมเปญ “ได้เรื่องได้เลือด” ผ่านแอปพลิเคชันโครงการเต็มใจ
- ผู้เข้าประกวดจะต้องได้รับการอบรมหลักสูตรเต็มใจ (ความรู้ด้านการตลาด และความรู้เรื่องเลือดและการบริจาคโลหิต) และหลักสูตร Wise Creator (ความรู้เรื่องการสัมภาษณ์ การเขียนบทความ และการสร้างสรรค์คอนเทนต์ตามแนวทาง White Prestige เพื่อให้เกิด “สินทรัพย์ทางความรู้”)
- ผู้เข้าประกวดจะต้องสัมภาษณ์และเขียนภายใต้หัวข้อ “ได้เรื่องได้เลือด” โดยจะต้องเข้าสัมภาษณ์ผู้บริหาร หรือผู้มีชื่อเสียง ที่มีคุณธรรมในการทำงานและการดำเนินชีวิต อันสามารถนำมาเป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคมและสร้างการตระหนักรู้ถึงการช่วยเหลือสังคมส่วนรวม รวมถึงการกระหนักรู้ถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต
- ผู้เข้าประกวดสามารถนำเสนอชื่อผู้สัมภาษณ์ผู้บริหารหรือผู้มีชื่อเสียง ให้กองประกวดพิจารณาได้ หรือสุ่มเลือกจากรายชื่อที่ทางกองประกวดจัดไว้ให้
- เมื่อสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วจะต้องนำเนื้อหามาเรียบเรียงเป็นบทความ และสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่อยอด เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน และการใช้ชีวิต โดยเฉพาะประเด็นการให้และการเสียสละ โดยเน้นการสร้าง “สินทรัพย์ทางคอนเทนต์” ที่มีคุณค่า
- ผลงานหรือกิจกรรมที่รณรงค์ จะต้องเป็นผลงานที่ผู้ร่วมแข่งขันสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง ไม่เคยถูกส่งประกวดเข้าโครงการอื่นๆ และจะต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ลิขสิทธิ์ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา หรือสิทธิ์ใดๆ ของบุคคลอื่น หากมีการร้องเรียน หรือเป็นงานอันละเมิดต่อกฎหมาย ผู้เข้าประกวดจะต้องรับผิดชอบในทุกกรณี
- กรณีที่ได้รับรางวัลเป็นที่พัก ผู้เข้าประกวดจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าของรางวัล ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร และจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเดินทาง และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ
- ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือรางวัลอื่น และไม่สามารถโอนสิทธิ์ในการรับรางวัลไปให้ผู้อื่นได้
- การให้คะแนนและการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด โดยผู้เข้าร่วมประกวดไม่สามารถโต้แย้งได้
- ผู้เข้าประกวดยินยอมให้ White Prestige นำผลงานออกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ หรือใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่ไม่แสวงหากำไร โดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นแก่เจ้าของผลงาน
ลักษณะผลงานที่เข้าประกวด:
- สัมภาษณ์และเรียบเรียงบทความภายใต้แคมเปญ “ได้เรื่องได้เลือด”
- เนื้อหาบทความจะต้องมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตและการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงแนวคิดสร้างสรรค์สังคมของผู้บริหาร เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้คนทั่วไปในการทำงานและการออกมาบริจาคโลหิต
- บทความจะต้องมีองค์ประกอบครบถ้วน อันได้แก่ ชื่อเรื่อง คำนำ เนื้อเรื่อง และสรุป โดยคำนำจะต้องเขียนได้ใจความชัดเจน สามารถสร้างแรงจูงใจให้คนอ่านเชื่อมโยงไปสู่เนื้อหาอย่างสอดคล้องสัมพันธ์กัน และมีการสรุปใจความสำคัญไว้สุดท้าย พร้อมสอดแทรกข้อคิดทิ้งท้ายได้อย่างน่าสนใจ
- บทความจะต้องเขียนด้วยตัวผู้เข้าประกวดเอง ไม่คัดลอก ดัดแปลง หรือใช้ AI เขียน และต้องเป็นผลงานที่ไม่เคยส่งเข้าประกวดหรือได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในสื่อใดๆ มาก่อน
- บทความพิมพ์ด้วยตัวอักษร TH SarabunPSK หรือ TH SarabunNew ขนาด 16 พ้อยต์ จำนวนไม่เกิน 20 หน้ากระดาษ A4
- แต่ละทีม สามารถส่งประกวด 1 บทความเท่านั้น
- หากบทความที่ส่งมาไม่เข้าหลักเกณฑ์ข้างต้น คณะกรรมการตัดสินการประกวดอาจพิจารณางดเว้นการตัดสิน
เกณฑ์การให้คะแนน (ประเภทงานเขียนบทความยอดเยี่ยม – คะแนนรวม 100 คะแนน):
เกณฑ์การให้คะแนน | คำอธิบาย | คะแนน |
1. เนื้อหาสาระและความลึกซึ้ง | (25 คะแนน) – ความสอดคล้องกับหัวข้อและวัตถุประสงค์ (10 คะแนน): เนื้อหาสาระของบทความตรงกับหัวข้อ “ได้เรื่องได้เลือด” และสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวของผู้บริหาร/ผู้มีชื่อเสียงกับการสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีและการบริจาคโลหิตได้อย่างชัดเจนและเป็นเหตุเป็นผลกัน – ความลึกซึ้งและการค้นหาคุณค่า (10 คะแนน): สามารถดึงประเด็นสำคัญ แนวคิดเชิงลึก หรือคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในประสบการณ์ของผู้ถูกสัมภาษณ์ออกมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การบอกเล่าข้อเท็จจริง แต่เป็นการแปลง “ความรู้” ให้เป็น “สินทรัพย์ทางปัญญา” ที่ผู้อ่านได้รับ – การนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (5 คะแนน): เนื้อหามีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นด้านแนวคิดการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการกระตุ้นให้เกิดจิตสาธารณะ | 25 |
2. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมุมมอง | (25 คะแนน) – มุมมองการนำเสนอที่แปลกใหม่ (15 คะแนน): มีความคิดริเริ่มในการเลือกมุมมองการนำเสนอเรื่องราวของบุคคลที่สัมภาษณ์ ทำให้บทความไม่ซ้ำซากจำเจและน่าติดตาม สร้าง “ความแตกต่าง” ของคอนเทนต์จากบทความทั่วไป – การเชื่อมโยงอย่างสร้างสรรค์ (10 คะแนน): สามารถเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ เข้ากับแกนหลักของแคมเปญ (บริจาคโลหิต) และแนวคิด “Knowledge Asset” ของ White Prestige ได้อย่างสร้างสรรค์และกลมกลืน ไม่ใช่แค่การนำเสนอข้อมูลดิบ แต่มีการปรุงแต่งให้เกิดคุณค่าและแรงบันดาลใจ | 25 |
3. การใช้ภาษาและโครงสร้าง | (25 คะแนน) – ความถูกต้องและชัดเจน (10 คะแนน): การใช้ภาษาถูกต้องตามหลักภาษาไทย ทั้งการสะกดคำ ไวยากรณ์ และการใช้คำศัพท์เหมาะสมกับบริบท ทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้อย่างชัดเจน ไม่กำกวม – โครงสร้างและการลำดับเรื่อง (10 คะแนน): บทความมีโครงสร้างที่ชัดเจน (คำนำ เนื้อหา สรุป) มีการลำดับเรื่องราวที่เป็นระบบ ระหว่างย่อหน้ามีความเชื่อมโยงกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล ทำให้ผู้อ่านติดตามเรื่องราวได้ง่ายและไม่สับสน – ความกระชับและตรงประเด็น (5 คะแนน): สามารถถ่ายทอดเนื้อหาได้อย่างกระชับ ตรงประเด็น ไม่เยิ่นเย้อ แต่ยังคงความครบถ้วนของข้อมูลและอรรถรสในการอ่าน | 25 |
4. สำนวนการเขียนและอรรถรส | (25 คะแนน) – ความสละสลวยและน่าอ่าน (15 คะแนน): สำนวนการเขียนมีความสละสลวย ไพเราะ น่าอ่าน ใช้ภาษาที่ชวนติดตาม ไม่เป็นทางการจนเกินไป และสามารถสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับเรื่องราว – การสร้างอารมณ์ร่วมและแรงบันดาลใจ (10 คะแนน): สามารถใช้ถ้อยคำและสำนวนในการสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้อ่าน และกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำความดี หรือการบริจาคโลหิตได้อย่างสัมฤทธิ์ผล แสดงให้เห็นถึง “ทุนแบรนด์” ที่เกิดจากคุณภาพของงานเขียน | 25 |

ประเภทสื่อสารคอนเทนต์ยอดเยี่ยม (คะแนนรวม 100 คะแนน)
เกณฑ์การให้คะแนนนี้มุ่งเน้นที่ความสามารถในการสร้างสรรค์และเผยแพร่คอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการรับรู้ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมตามวัตถุประสงค์ของแคมเปญ “ได้เรื่องได้เลือด” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ White Prestige ในการแปลงความรู้ให้เป็น “สินทรัพย์ที่สร้างรายได้” และ “ทุนแบรนด์ที่ยั่งยืน”
เกณฑ์การให้คะแนน | คำอธิบาย | คะแนน |
1. กลยุทธ์การสื่อสารและการวางแผนคอนเทนต์ | (25 คะแนน) – ความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแคมเปญ (10 คะแนน): คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมีความชัดเจนในการสื่อสารวัตถุประสงค์ของการรณรงค์บริจาคโลหิต และเชื่อมโยงกับการสร้างแรงบันดาลใจจากบทสัมภาษณ์ได้ดีเพียงใด – การกำหนดกลุ่มเป้าหมายและช่องทาง (10 คะแนน): มีความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย (เยาวชนและประชาชนทั่วไป) และเลือกใช้ช่องทางออนไลน์ที่เหมาะสมในการเผยแพร่คอนเทนต์ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงสูงสุด – แผนการเผยแพร่คอนเทนต์ (5 คะแนน): มีแผนการเผยแพร่ที่ชัดเจนและเป็นระบบ มีการวางแผนช่วงเวลาและประเภทคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อรักษาความต่อเนื่องและกระตุ้นความสนใจ | 25 |
2. ความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพของคอนเทนต์ | (30 คะแนน) – ความน่าสนใจและความดึงดูด (15 คะแนน): คอนเทนต์มีความแปลกใหม่ สร้างสรรค์ และน่าสนใจ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้รับสารได้ตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะเป็นภาพ, วิดีโอ, กราฟิก, หรือข้อความ – คุณภาพการผลิต (10 คะแนน): คุณภาพของคอนเทนต์ (ภาพ, เสียง, วิดีโอ, การออกแบบกราฟิก) มีความคมชัด สวยงาม และเป็นมืออาชีพ สะท้อนถึงการลงทุนในการสร้าง “สินทรัพย์ดิจิทัล” ที่มีคุณภาพ – การเล่าเรื่องที่น่าประทับใจ (5 คะแนน): compressible สามารถนำเรื่องราวจากบทสัมภาษณ์มาถ่ายทอดในรูปแบบคอนเทนต์ได้อย่างน่าประทับใจ เข้าถึงอารมณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้รับสาร | 30 |
3. การมีส่วนร่วมและการสร้างปฏิสัมพันธ์ (Engagement) | (30 คะแนน) – ยอดการเข้าถึง (Reach) และการรับรู้ (Awareness) (10 คะแนน): จำนวนผู้ที่เข้าถึงและรับรู้คอนเทนต์ในวงกว้าง (วัดจากยอดวิว, ยอดผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้น, การเข้าถึงโพสต์) – ยอดปฏิสัมพันธ์ (Interaction) (10 คะแนน): การมีส่วนร่วมของผู้รับสาร เช่น ยอดไลก์, คอมเมนต์, แชร์, การคลิกเข้าชม (วัดจาก Engagement Rate) – การกระตุ้นให้เกิดการบริจาคโลหิตและการมีส่วนร่วมจริง (10 คะแนน): ประสิทธิภาพของคอนเทนต์ในการกระตุ้นให้เกิดการลงทะเบียนบริจาคโลหิต หรือการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริจาคโลหิต การวัดผล: พิจารณาจาก * จำนวนผู้ลงทะเบียนบริจาคโลหิต: จำนวนผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อบริจาคโลหิตผ่านช่องทางที่กำหนดของทีม (เช่น QR Code, ลิงก์ออนไลน์, การลงทะเบียนที่จุดรับบริจาค) โดยมีการระบุว่ามาจากแคมเปญของทีมนั้นๆ และจำนวนผู้ที่ไปบริจาคจริง * จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง: จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมเสริมที่ทีมจัดขึ้น (เช่น เวิร์กช็อป, เสวนา, กิจกรรมออนไลน์) พร้อมหลักฐานการเข้าร่วม (เช่น รายชื่อผู้ลงทะเบียน, ยอดผู้เข้าชมไลฟ์สด, สถิติการมีส่วนร่วม) * คำบอกเล่า/บทสัมภาษณ์ของผู้บริจาค: คำบอกเล่าสั้นๆ หรือบทสัมภาษณ์จากผู้ที่บริจาคโลหิตว่าคอนเทนต์ของทีมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจบริจาคของพวกเขาอย่างไร (หากเป็นไปได้) * ข้อมูลจาก Social Listening: จำนวนการพูดถึง (Mentions) หรือความรู้สึกเชิงบวก (Sentiment) ที่เพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับแคมเปญของทีม (หากมีเครื่องมือที่เหมาะสม) | 30 |
4. ความสม่ำเสมอและความยั่งยืนของแคมเปญ | (15 คะแนน) – ความต่อเนื่องของการสื่อสาร (10 คะแนน): มีการสื่อสารคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาแคมเปญ สร้างการรับรู้และความตระหนักได้อย่างต่อเนื่อง – ศักยภาพในการสร้างทุนแบรนด์ (5 คะแนน): คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมีศักยภาพในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อถือให้กับโครงการและ White Prestige ในระยะยาว เป็น “ทุนแบรนด์” ที่ยั่งยืน การวัดผล: พิจารณาจาก * การสะท้อนคุณค่าของ White Prestige: คอนเทนต์สามารถสะท้อนแกนหลักของ White Prestige ในฐานะ “ผู้ให้บริการแปลงความรู้ให้เป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้และทุนแบรนด์ที่ยั่งยืน” ได้ดีเพียงใด (การนำเสนอข้อมูลอย่างมีชั้นเชิง, ความน่าเชื่อถือ, ภาพลักษณ์มืออาชีพ) * การสร้างความเชื่อมั่นและการจดจำ: ผลสำรวจความรับรู้ (Awareness) และความรู้สึกเชิงบวกต่อ White Prestige (หากมีการสำรวจ), การอ้างอิงและการแบ่งปันคอนเทนต์ในเชิงบวก, และความเป็นต้นแบบของคอนเทนต์ที่สามารถเป็นแหล่งอ้างอิงได้ในอนาคต * ภาพลักษณ์เชิงบวกของโครงการและ White Prestige: การนำเสนอและเชื่อมโยงบทบาทของ White Prestige ในฐานะพี่เลี้ยงและผู้สนับสนุนโครงการในคอนเทนต์ได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติ และความสามารถในการสร้างความผูกพันต่อแบรนด์ในระยะยาว | 15 |

รางวัล
การประกวดชิงถ้วยรางวัล White Prestige Writing Awards ประเภทงานเขียนบทสัมภาษณ์ภายใต้แคมเปญ “ได้เรื่องได้เลือด” มีด้วยกัน 2 รางวัล ได้แก่
- ประเภทงานเขียนบทความยอดเยี่ยม:
- รับถ้วยรางวัล White Prestige 1 ถ้วยต่อ 1 รางวัล
- รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติทุกคนในทีม
- ประเภทสื่อสารคอนเทนต์ยอดเยี่ยม:
- รับถ้วยรางวัล White Prestige 1 ถ้วยต่อ 1 รางวัล
- รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติทุกคนในทีม

เงื่อนไขอื่นๆ
- การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นอันสิ้นสุด
- บทความจากการประกวดจะนำไปรวมเล่ม เพื่อผลิตเป็นหนังสือ และอีบุ๊ก แจกฟรี

การประกาศผล
- ประกาศผลการประกวดที่งาน White Prestige: A Legacy of Inspiring Stories ภายใต้หยั่งรากสู่ยั่งยืน มูลนิธิดั่งพ่อสอน วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 11.30-12.30 น. ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
สมัครเข้าแคมเปญได้เรื่องได้เลือด คลิก https://docs.google.com/forms/d/1nCgwuDz_AcLLMmeD5-KxdOmQR19bsEl-6C6gdNuuAhk/edit

กติกาการประกวดโครงการเต็มใจ
กิจกรรมการประกวดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตของกลุ่มเยาวชน
โครงการเต็มใจ เป็นการประกวดกิจกรรมรณรงค์บริจาคโลหิตของกลุ่มเยาวชน ระดับอุดมศึกษา เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ใช้ความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปออกมาร่วมบริจาคโลหิต โดยการทำงานจะต้องผ่านรูปแบบการทำงานแบบทีม ที่มีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดูแล ภายใต้การให้คำปรึกษาแนะนำความรู้ด้านการตลาดและการจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคม จากกลุ่มนักธุรกิจจิตอาสา หรือที่เรียกว่า Mentor

คุณสมบัติผู้เข้าประกวด
1. ผู้เข้าประกวด อายุระหว่าง 18-25 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรไปจนถึงระดับปริญญาเอก หากอายุยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบุไว้ข้างต้น
2. ผู้เข้าประกวดจะต้องรวมทีมไม่เกิน 6 คน คณะเดียวกัน ต่างคณะ หรือต่างมหาวิทยาลัยก็ได้ และมีอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นอาจารย์สังกัดมหาวิทยาลัย 1 คน โดยต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากอาจารย์ที่ปรึกษา และเข้าร่วมกิจกรรมไปกับผู้เข้าประกวดด้วย ทั้งนี้อาจารย์ 1 คน สามารถเป็นที่ปรึกษาได้มากกว่า 1 ทีม กรณีการรวมทีมต่างมหาวิทยาลัย ยอดโลหิตที่ได้จะไม่นับรวมเข้ามหาวิทยาลัยใด ให้เป็นยอดโลหิตส่วนกลางในชื่อโครงการเต็มใจ
3. ผู้เข้าประกวดทุกทีมจะต้องมี Mentor จากโครงการเต็มใจ ทีมละ 1 คน ทุกกิจกรรมก่อนที่จะมี การรณรงค์จะต้องผ่านการอนุมัติจาก Mentor เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น กิจกรรมใดที่จัดขึ้นโดยไม่ผ่านการอนุมัติจาก Mentor ถือเป็นโมฆะ
หลักฐานการสมัคร
1. สำเนาบัตรประจำตัวนิสิต นักศึกษา (ทุกคน) โดยต้องเห็นรูปถ่ายชัดเจน
2. กรอกใบสมัครเข้าร่วมการประกวดอย่างครบถ้วนและชัดเจน 3. สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ https://register.temjai.org/

กติกาการประกวด
1. ผู้เข้าประกวดทุกทีมจะต้องผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับการบริจาคโลหิตจากโครงการเต็มใจ และจะต้องเผยแพร่ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิต หรือ เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต
2. ผู้เข้าประกวดทุกทีมจะสร้างแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์เพื่อกระจายข่าวสารและเผยแพร่ผลงานของตนเอง อาทิ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก อินสตาแกรม เป็นต้น
3. การประกวด 1 ทีมต่อ 1 แคมเปญ ผู้เข้าประกวดสามารถเข้าแข่งขันได้มากกว่า 1 รอบ (Re-campaign) ผลการตัดสินจะวัดจากปริมาณโลหิตที่ได้ในแต่ละรอบการแข่งขัน ไม่สามารถนำรอบอื่นๆ มารวมกันได้ ผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกรอบที่มีปริมาณมากที่สุด รอบการแข่งขันกิจกรรมรณรงค์ มีระยะเวลารอบละ 30 วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่ “วันแรกที่เปิดรับบริจาคโลหิต” ส่วนขั้นตอนการเตรียมงาน กรณี Big Idea การทำ workshop และการวางแผนการทำงาน จะไม่นับรวมในระยะเวลา 30 วัน ทั้งนี้ในรอบ Re-campaign ห้ามผู้เข้าประกวดทำกิจกรรมการตลาดออนไลน์ และการตลาดแบบเดินประชาสัมพันธ์ตามแหล่งต่าง ๆ (troop) แต่สามารถบอกต่อในกลุ่มเพื่อนและญาติพี่น้องได้ หากมีหลักฐานการทำประชาสัมพันธ์ก่อน จะเริ่มนับวันนั้น เป็นวันที่ 1 ของการรณรงค์ทันที
4. ผู้เข้าประกวดสามารถใช้งบส่วนตัวในการทำกิจกรรมรณรงค์ทั้งหมดไม่เกิน 6,000 บาท/ทีม โดยต้องใช้ความรู้ความสามารถในการขอสปอนเซอร์ หรือจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ได้ การของบสปอนเซอร์ ต้องเป็นไปเพื่อใช้จ่ายในงานรณรงค์เท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้ เงินบริจาคที่เหลือจากค่าใช้จ่ายในการรณรงค์จะต้องนำส่งต่อทีมเข้าประกวดในรุ่นต่อไปของมหาวิทยาลัยเดียวกัน หรือร่วมบริจาคเข้าโครงการเต็มใจ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ในภาพรวมทั่วประเทศ และหากผู้เข้าประกวด Re-campaign สามารถระดมทุนส่วนตัวใหม่ เพื่อทำกิจกรรมรณรงค์ได้ไม่เกิน 6,000 บาทต่อทีม
5. ไม่อนุญาตให้แจกเงินสด หรือคูปองสินค้า และไม่อนุญาตให้ซื้อสินค้าหรือบริการแจกผู้บริจาคโลหิตกรณี แต่ถ้าได้รับการสนับสนุนสินค้าและบริการจากสปอนเซอร์ก็สามารถนำมาแจกได้
6. รูปแบบการวัดปริมาณโลหิต ใช้ระบบแอปพลิเคชันจัดเก็บข้อมูล ทั้งนี้โดยก่อนบริจาค ผู้บริจาคจะต้องลง
ทะเบียนผ่านระบบ Line OA : @heartfelt เพื่อระบุทีมที่จะบริจาคให้ โดยข้อมูลจะแยกรหัสเป็นรายทีม และรายมหาวิทยาลัย
7. การนับยอดปริมาณโลหิต จะวัดผลจากการบันทึกในแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นับปริมาณโลหิตด้วยการรวมยอดหน้าหน่วยรับบริจาคโลหิต
8. การจัดหน่วยรับบริจาคโลหิต แต่ละทีมต้องยื่นเอกสารขอจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตผ่านกองกิจการนักศึกษา โดยระบุร่วมจัดกิจกรรมกับโครงการเต็มใจ เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับวันจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตเดิม
9. ไม่อนุญาตให้แต่ละทีมเข้าไปประชาสัมพันธ์ หรือตั้ง QR code หรือรหัสทีมในพื้นที่บริจาคโลหิตที่ตนเอง
ไม่ได้จัด และไม่อนุญาตให้นับยอดโลหิตจากหน่วยบริจาคโลหิตที่ไม่ได้ผ่านการณรงค์ล่วงหน้า หากตรวจพบพฤติกรรมดังกล่าว จะถือยอดเลือดที่ได้นั้นเป็นโมฆะ
10. ผู้เข้าแข่งขันสามารถสะสมยอดโลหิตเป็นรายคน หากมีการเปลี่ยนแปลงทีมในการประกวดรอบอื่นๆ ก็ยังสามารถสะสมยอดโลหิตรายคนต่อไปได้
11. รางวัลมีด้วยกัน 3 ประเภท คือ ประเภทมหาวิทยาลัยยอดโลหิตสูงสุด ประเภททีมยอดโลหิตสูงสุด และประเภททีมแคมเปญยอดเยี่ยม โดยแต่ละรางวัลจะประกอบด้วยทีมชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2
12. มหาวิทยาลัยใดที่มีทีมนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมประกวด เมื่อนับผลรวมปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาคจากทุกทีมแล้ว ได้ผลรวมเป็นอันดับ 1 จะได้รับ รางวัลมหาวิทยาลัยยอดโลหิตสูงสุด เป็นถ้วยรางวัลสันโตสะอาชาไนย 1 ใบ และเข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กรณีที่รวมทีมผู้เข้าประกวดต่างมหาวิทยาลัย ปริมาณโลหิตที่บริจาคได้ จะบันทึกเข้ารายทีม แต่จะไม่สามารถบันทึกเข้ามหาวิทยาลัยใดได้
13. ทีมที่ชนะรางวัลแคมเปญที่ได้รับยอดโลหิตสูงสุด และรางวัลแคมเปญยอดเยี่ยม จะได้รับ ถ้วยรางวัลโฆษกะจาคะ ทีมละ 1 ใบ และเข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัลทั้งสองทีม ส่วนรางวัลที่เป็นทริป
ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ 5 วัน 3 คืน มอบให้เฉพาะทีมยอดโลหิตสูงสุดเท่านั้น โดยกำหนดให้มีการเดินทาง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2570 โดยผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่ ผู้ชนะรางวัลทีมยอดโลหิตสูงสุด ไม่เกิน 6 คน อาจารย์ที่ปรึกษา 1 คน และ Mentor 1 คน
14. กรณีที่ได้รับรางวัลเป็นทริปท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ผู้เข้าประกวดจะต้องเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าของรางวัล ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร และจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมเอกสาร อาทิ พาสปอร์ต วีซ่า และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมท่องเที่ยวเอง
15. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือรางวัลอื่น และไม่สามารถโอนสิทธิ์ในการรับรางวัลไปให้ผู้อื่นได้
16. ผู้เข้าประกวดที่ชนะรางวัลทุกรางวัลจะได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตเต็มใจมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรม
ต่างๆ ร่วมกับโครงการเต็มใจ เป็นระยะเวลา 1 ปี ตลอดปี 2569
17. เนื้อหาที่เผยแพร่จะต้องเป็นถ้อยคำที่สุภาพเท่านั้น ห้ามไม่ให้ใช้คำหรือข้อความที่สื่อความหมายรุนแรง อนาจาร หยาบคาย หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี หรือเป็นข้อความอันก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือความเสียหายต่อบุคคลอื่น
18. เนื้อหาที่เผยแพร่จะต้องเป็นถ้อยคำที่สุภาพเท่านั้น ห้ามไม่ให้ใช้คำหรือข้อความที่สื่อความหมาย
รุนแรง อนาจาร หยาบคาย หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี หรือเป็นข้อความอันก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือความเสียหายต่อบุคคลอื่น
19. ผลงานหรือกิจกรรมที่รณรงค์ จะต้องเป็นผลงานที่ผู้ร่วมแข่งขันสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง ไม่เคยถูกส่ง
ประกวดเข้าโครงการอื่น ๆ และจะต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ลิขสิทธิ์ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา หรือสิทธิ์ใด ๆ ของบุคคลอื่น หากมีการร้องเรียน หรือเป็นงานอันละเมิดต่อกฎหมาย ผู้เข้าประกวดจะต้องรับผิดชอบในทุกกรณี
20. การให้คะแนนและการตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาดและสิ้นสุด โดยผู้เข้าร่วมประกวดไม่
สามารถโต้แย้งได้
21. ผู้เข้าประกวดยินยอมให้โครงการเต็มใจ นําผลงานออกเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ หรือใช้ประโยชน์ด้าน
อื่นๆ อันเกี่ยวเนื่องกับในกิจกรรมของโครงการ โดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นแก่เจ้าของผลงาน

กำหนดการประกวด
1. เข้าร่วมประกวดได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 30 พฤศจิกายน 2568
2. นำเสนอแคมเปญ เข้าประกวดรางวัลแคมเปญยอดเยี่ยม วันที่ 2 ธันวาคม 2568
3. ประกาศผลการประกวด วันที่ 5 ธันวาคม 2568
4. ผู้ชนะการประกวดเข้าร่วมงาน หยั่งรากสู่ยั่งยืน 2025 วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์สุขุมวิท
5. อบรมทูตเต็มใจ ใน Social Change Maker วันที่ 21 มกราคม 2569
6. ผู้ชนะการประกวดเดินทางท่องเที่ยวทัศนศึกษาประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2570
เกณฑ์การตัดสินรางวัล
1. รางวัลยอดโลหิตสูงสุด
1.1 พิจารณาจากผลรวมปริมาณโลหิต จากทีมนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทุกทีมที่เข้าประกวด
1.2 ใช้ระบบแอปพลิเคชันวัดผล ผ่านการลงทะเบียนและกำหนด Code ของทีม
2. รางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมแห่งปี
2.1 ความคิดสร้างสรรค์ 30 คะแนน
คอนเซ็ปต์แปลกใหม่ 15 คะแนน
สร้างแรงบันดาลใจให้คนมาบริจาคได้ 15 คะแนน
2.2 กลยุทธ์ต่าง ๆ 30 คะแนน
2.2.1 การจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยให้คะแนนจากการเทียบปริมาณโลหิตกับงบประมาณที่ใช้ 15 คะแนน
2.2.2 การทำ IMC สื่อสารการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ
โดยวัดผลจากยอด engagement ทุกช่องทางรวมกัน 15 คะแนน
3 ผลลัพธ์ (Impact) ของแคมเปญ 30 คะแนน
3.1 ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ 15 คะแนน
3.2 กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิตจากแคมเปญของทีม
โดยใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถามจากโครงการเต็มใจ 15 คะแนน
4 การทำงานเป็นทีม 30 คะแนน
4.1 ความร่วมมือในการทำงาน 10 คะแนน
4.2 ความตั้งใจในการทำงาน 10 คะแนน
4.3 ความรับผิดชอบต่องาน 10 คะแนน
คณะกรรมการตัดสิน
1. ผู้แทนจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย 1 คน
2. ผู้แทนจากมูลนิธิดั่งพ่อสอน 1 คน
3. ผู้ทรงคุณวุฒิจากโครงการพัฒน์ 3 คน

ประกาศผลผู้ได้รับรางวัล
1. ประกาศผลผู้ที่รับรางวัล วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ผ่านทาง https://www.facebook.com/HeartfeltThailand และ www.heartfeltthailand.com
2. การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
การรับรางวัล
1. ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องมารับรางวัลด้วยตนเอง
2. กรณีไม่สามารถมารับด้วยตนเอง ต้องมอบฉันทะพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบและผู้รับมอบฉันทะ เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
3. หากไม่มารับรางวัลตามกำหนดที่แจ้งถือว่าสละสิทธิ์ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม


รางวัล
รางวัลยอดโลหิตสูงสุด
ประเภททีม รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ชื่อถ้วยรางวัลโฆษกะจาคะ ออกแบบโดย อ.ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี 2556 พร้อมเกียรติบัตร ประเทศเกาหลีใต้ 5 วัน 3 คืน
รางวัลยอดโลหิตสูงสุด
ประเภทมหาวิทยาลัย รับถ้วยรางวัลสันโตสะอาชาไนย ออกแบบโดย อ.ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี 2556 พร้อมเกียรติบัตร
รางวัลแคมเปญยอดเยี่ยมแห่ง
ปี รับถ้วยรางวัลโฆษกะจาคะ ออกแบบโดย อ.ช่วง มูลพินิจ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี 2556 พร้อมเกียรติบัตร

………………………………………………………
รายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 089-1559049
สมัครเข้าร่วมคลิกเลย
https://lin.ee/BFlEO54